ซ า ก โดย ปูนิ่ม@ฉงเต๋อ.คอม ไม่มีอะไรมากครับ .... มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับกระทู้เศษมนุษย์ ซักเท่าไหร่หน่ะครับแต่กระทู้นี้มาเป็นตัวตัว (โอ๋วยยย ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ดูกันเองดีกว่าครับ)
จากวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี (ต้นเมษา 51)ใช่ครับวันนี้ผมเอารูปซาก มาให้ดูกัน (ซากศพนี่แหล่ะครับ) เจ้าของศพเค้าตั้งใจไว้ว่า ซากของเค้าจะได้เป็นอุทาหรณ์แก่หลายหลายท่าน แก่หลายหลายมุมมอง แก่หลายหลายแนวคิด กับหลายหลายชีวิต นะครับโผ๊ม(อ่อ ผมเคยเห็น FW mail มาเหมือนกันครับ แต่ไม่คิดว่าจะได้ไปเก็บภาพกับเจ้าตัวจริงจริงของเค้ากับมือหน่ะ)
+01.jpg)
ผมสังเกตุเห็นศพทุกศพแม้จะแห้งเห็นกระดูกก็ตามเถอะครับ แต่ก็ยังมีน้ำหรือของเหลวอะไรซักอย่างที่ดูเหมือนจะนองอยู่ปลายเท้า ของทุกศพเลยครับ
+02.jpg)
พวกเค้าต้องเสียชีวิตเพราะ เชื้อ HIV หรือเสียชีวิตเพราะภัยตัวเอง กันน่ะ (แต่ก็ไม่เสมอไปครับ .... เพราะบางรายก็ติดโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็มี)
+03.jpg)
ผมยืนสังเกตุอยู่นานครับ พบว่า .... ท่านผู้นี้ มีรอยสักอยู่เต็มลำตัวเลย สักกันคมหอกคมดาบ สักกันของเข้าตัว สักกันกระสุน ไม่น่าเชื่อน่ะครับ ว่าในที่สุดก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะ เชื้อโรคตัวเล็กเล็ก (ก็การสักไม่ได้กัน HIV นี่ครับผม อื่ม)
+04.jpg)
+05.jpg)
กรณีท่านผู้นี้ ก็สักเหมือนกันเนาะ (อื่ม ยังมีเค้าโครงหน้าตาอยู่ครับ)
+07.jpg)
ผู้หญิงคนนี้ เธอยังมีหน้าอกเป็นวงกลมอยู่ด้วยหน่ะครับ ผมก็เลยเพ่งดู หน่อยนึ่ง เข้าใจได้ว่า นั่นคือร่องรอยของซิลิโคนครับ
(เห้ออออ ..... เอาไปด้วยไม่ได้จริงจริงครับ)
+08.jpg)
+09.jpg)
กรณีเดียวกันเลยขอรับ (หื้อ .... น่าเห็นใจ)
+10.jpg)
ผู้หญิงคนนี้เธอติดจากสามีครับ ... ให้เห็นว่า การรักเดียวใจเดียว เพียงฝ่ายเดียว ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตปลอดภัยอะไรเลย (เน่อะ)
+11.jpg)
+12.jpg)
ศพนี้ก็น่าเศร้าครับ ....แม้ว่าเธอไม่มีชีวิตแล้ว แต่ยังพบเชื้อที่ยังคงกัดกินศพ (มันยังขึ้นขาวเป็นแถบแถบ อยู่เลยครับ)
ถ่ายเสร็จ ซูมเสร็จ ถึงได้รู้สึกว่า .... นี่เราจะติดละอองเชื้อรากะเค๊าด้วยไหม๊เนี๊ยะ (หวั่นใจไม่น้อย ... แต่เก็บเงียบ)
+13.jpg)
+14.jpg)
((อ๊ากกกกกก !!!!!))
+15.jpg)
ผู้ชายคนนี้เป็นภิกษุ ครับ ผมก็เลยพูดอะไรไม่ออกเลย ... กึ่มกึ่ม ขึ้นมาทันที
+16.jpg)
+17.jpg)
ส่วนตัวผมแล้ว ผู้ชายคนนี้น่ากลัวสุดครับ (แต่ยังคงเก็บเงียบอยู่ไม่แสดงความหวั่นไหวใดใด ฮ่า)
เพราะ ..... เค้าคงเป็นศพล่าสุดหน่ะครับ ดูแล้วยังมีเนื้อมีหนังอะไรอะไร เยอะกว่าศพอื่นอื่นหน่ะครับ ดูเค๊ายิ้มให้กล้องซิครับ ... (เห่อะเห่อะ ที่บ้านเรียก "หลอน")
+18.jpg)
และนี่ครับ โลงศพ ไม่ได้มีไว้ใส่แค่คนแก่เน่อะ ไม่รุเรื่องไม่รุราวก็ยังถูก HIV เล่นงานหน่ะ
+19.jpg)
+20.jpg)
มีน้องผู้หญิงด้วยครับ
+21.jpg)
+22.jpg)
มีอยู่ศพหนึ่งครับ ไม่ทราบเหมียนกันครับว่า ... ทำไมถึงต้องใส่โลงหน่ะครับ โลงใสใส แต่ศพนี้ทำผมหลอนครับ ไม่รู้ทำไมฮ่า (จุจุจุ ... แบบว่าข่มเอาไว้หน่ะครับ)
+23.jpg)
สงสัยเพราะเหมือนเค้านอนอยู่หน่ะครับ และส่วนหัว (กะโหลก) ดูเหมือนคนนอนเฉยเฉย ไม่แห้งเหมือนศพส่วนใหญ่มั้งครับ
+24.jpg)
+25.jpg)
ใช่ครับผม ... ไม่มีผู้เกิด จะมีผู้ตายได้อย่างไร (เราจึงโชคดีหนักหนาแล้ว ที่ได้รู้และหยุดการเกิดตายไว้ ณ ชาติภพนี้)
Related Post:
Life Museum In Thailand (Part 1)
No comments:
Post a Comment